Earthquake เหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่ได้เขย่าขวัญประชากรทั้งประเทศ หายนะที่เพียงวันเดียว แต่กวาดเรียบทุกสิ่งอย่างให้หายไป ด้วยขนาดความสั่นสะเทือน ของแผ่นดินไหว
วัดระดับได้ถึง 9.0 แมกนิจูด ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และเกิดการรั่วไหลของ Radioactive Substances ด้วยความเสียหายวงกว้าง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตหลักหมื่นราย
ข้อมูลเวลาเกิดเหตุ จุดศูนย์กลางความสั่นสะเทือน
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14:46 น. ตามเวลาของ Japan ณ วันที่ 11 มีนาคม 2011 ( พ.ศ. 2554 ) มีจุดศูนย์กลางความสั่นสะเทือน อยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของ Oshika Peninsula โดยความสั่นสะเทือน อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน ประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งวัดได้ขนาด 9.0 - 9.1 แมกนิจูด
ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ หลังจากสถานการณ์นี้ได้เกิดขึ้น ก็ได้มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมกำแพงกันคลื่นสึนามิ ถึงต้านไม่อยู่ จากคำถามนี้ พบว่าภัยพิบัติครั้งนี้นั้น เป็นความสั่นสะเทือนที่ใหญ่เกินคาด เกินกว่าที่นักวิจัยคาดคะเนเอาไว้ นับว่าเหตุการณ์นี้ เป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น [1]
กลไกกำเนิด Earthquake กับระดับที่วัดได้
จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น Japan Meteorological Agency ได้ประกาศว่า ระดับที่วัดได้เบื้องต้นอยู่ที่ 7.9 แต่พอเวลา 16:00 น. ระดับมันเพิ่มขนาดขึ้นเป็น 8.4 แต่ต่อมาได้เพิ่มขนาดความรุนแรง เพิ่มขึ้นเป็น 8.8
จนสุดท้ายวัดระดับ Earthquake ได้ที่ 9.0 แมกนิจูด อีกทั้งหลังเกิดแผ่นดินไหว ได้เกิด Aftershocks มากกว่า 1,200 ครั้ง โดย 60 ครั้งวัดระดับได้ที่ 6.0 แมกนิจูด ซึ่งเกิดขึ้นอย่างน้อย 3 ครั้งในวันเดียว
ความรุนแรงที่เกินคาด จนทำให้เกิดคลื่นสึนามิ
ด้วยความรุนแรงที่เกินคาด และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จัดอันดับ 4 เท่าที่มนุษย์เคยบันทึกมา ทางสำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเตือนภัย และวัดระดับตามมาตรฐาน โดยได้จัดให้เป็น “ สึนามิขนาดใหญ่ ” ซึ่งมีความสูงประมาณ 3 เมตร
ส่งผลทำให้เข้าถล่มตาม Pacific Coastline ของหมู่เกาะตอนเหนือของ Japan ซึ่งได้สร้างความเสียหาย หลายเมืองถูกทำลายลง ยอดผู้เสียชีวิตหลายพันคน หลังจากนั้นก็ได้มีการออกคำเตือน และมีคำสั่งอพยพประชากร ให้ไปยังพื้นที่ปลอดภัย [2]
ประเมินความเสียหาย Earthquake นำสู่การสูญเสียหลักหมื่น
หากพูดถึงระดับความรุนแรง Earthquake ครั้งนี้นับเป็นความรุนแรงครั้งใหญ่หลวง โดยส่วนใหญ่ความเสียหาย เป็นผลมาจาก Tsunami ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงผ่านสื่อมวลชนว่า มีอาคารประมาณ 45,700 หลังถูกทำลาย และอาคารอีก 144,300 หลัง ได้รับความเสียหาย
โรงพยาบาลใหญ่กว่า 300 แห่ง ได้รับความเสียหายเช่นกัน และยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีจำนวน 15,900 ราย หายสาบสูญ 2,523 ราย บาดเจ็บ 6,157 ราย รวมแล้วทั้งสิ้น 24,582 ราย [3] นอกจากเหตุการณ์นี้แล้ว ประเทศเกาหลีใต้เอง ก็เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเช่นเดียวกัน
แต่เป็นโศกนาฏกรรม ที่ไม่มีใครลืมเลือน 16 เมษายน 2014 เรือเซวอลล่ม ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะเชจู ส่งผลทำให้มียอดผู้เสียชีวิต 250 คน หากต้องการอ่านข่าวเพิ่มเติม สามารถคลิกลิงก์ข้างต้นได้ทันที
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่จะเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์, ท่าเรือ และเขื่อนแตก โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่ง ได้ถูกสั่งให้ปิดตัวลง เนื่องจากเกิดการรั่วไหล ของสารกัมมันตภาพรังสี และเกิดไฟไหม้ ส่วนท่าเรือทั้งหมดของญี่ปุ่น ได้ถูกสั่งปิดชั่วคราวทั้งหมด
เพื่อรอให้สถานการณ์เงียบสงบอีกครั้ง แต่ท่าเรือหลายแห่ง ก็ได้เปิดให้ใช้งานอีกครั้ง ในเวลาไม่นาน ส่วนเขื่อนชลประทานที่ฟูจินุมะ ได้เกิดรอยร้าวและแตก ทำให้เกิดอุทกภัย น้ำได้พัดพาบ้านเรือนของประชากร ส่งผลให้มีผู้สูญหาย 8 คน จากนั้นในวันรุ่งเช้า ได้พบศพผู้เสียชีวิต 4 คน
ผลที่ตามมาจากเหตุ Earthquake
ไฟฟ้า : มีบ้านเรือนราว ๆ 4.4 ล้านหลังครัวเรือน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
น้ำมันก๊าด และถ่านหิน : โรงกลั่นน้ำมันได้เกิดเพลิงลุกไหม้ มียอดผู้เสียชีวิต บวกผู้บาดเจ็บรวมกัน 6 คน
การคมนาคม : หลังเหตุการณ์ Earthquake ทำให้เครือข่ายการคมนาคม หยุดชะงักลงอย่างรุนแรง อีกทั้งทางด่วนก็ถูกปิดตัวลง นอกจากนี้ การบริการรถไฟจำนวนมากถูกยกเลิก
โทรคมนาคม : บริการสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงโทรศัพท์พื้นฐาน ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บริษัทกระจายเสียง ไม่สามารถติดต่อใครได้ แม้กระทั่งอินเทอร์เน็ตเอง ก็ไม่สามารถใช้งานได้
สมบัติทางวัฒนธรรม : สมบัติชิ้นสำคัญ 549 ชิ้น ได้รับความเสียหาย รวมถึงหอจดหมายแห่งชาติ 5 แห่ง
เศรษฐกิจ : มีทั้งปัญหาแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้การผลิตทางอุตสาหกรรม ต้องหยุดชะงักลงหลายแห่ง ทำให้ต้องใช้เงินอย่างน้อย 10 ล้านเยน ในการฟื้นฟูต่าง ๆ
สรุป Earthquake เขย่าขวัญประเทศญี่ปุ่น
11 มีนาคม 2011 เวลา 14:46 น. ตามเวลาของญี่ปุ่น ได้เกิดเหตุการณ์ จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกินจะรับไหว กำแพงกั้นก็ต้านไม่อยู่ นับเป็นความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ Japan
อ้างอิง
[1] WIKIPEDIA. (June 16, 2024). 2011 Tōhoku earthquake and tsunami. Retrieved from en.wikipedia
[2] mitrearth มิตรเอิร์ธ. (January 08, 2021). ย้อนรำลึกแผ่นดินไหวโทโฮคุ 9.0 : ทำไมวันนั้นกำแพงกันคลื่นถึงเอาไม่อยู่. Retrieved from mitrearth
[3] วิกิพีเดีย. (May 14, 2024). แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ พ.ศ. 2554. Retrieved from th.wikipedia