แอมโมไลต์ (Ammolite) เป็นอัญมณีอินทรีย์ ที่เกิดจากฟอสซิล ของสัตว์ทะเลดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ โอปอลสีดำ ปรากฏสีรุ้งแวววาว และเป็นหนึ่งในแร่หายาก ที่เกี่ยวข้องกับชีวภาพ
นอกจากนี้ มันยังมีประวัติยาวนาน เพราะเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ ทศวรรษปี 1960 ซึ่งพบได้เพียงน้อยนิด จากภูมิภาคทั่วโลก โดยข้อมูลที่น่าศึกษาอื่นๆ มีอะไรบ้าง อ่านต่อด้านล่าง
การเกิดขึ้นของ แอมโมไลต์ แร่ในยุคไดโนเสาร์
แอมโมไลต์ เกิดจากฟอสซิลของ “Ammonite” ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลลึก ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อราว 65 ล้านปีก่อน พร้อมกับยุคไดโนเสาร์ โดยหน้าตาของมัน เหมือนกับปลาหมึก ผสมกับหอยทาก และอยู่ในโลกมานานกว่า 330 ล้านปี
เมื่อแอมโมไนต์ตาย ซากทั้งหลายจะสะสมอยู่ใต้มหาสมุทร และกลายมาเป็นหินดินดาน จากนั้นเป็นเวลากว่า 71 ล้านปี ที่ฟอสซิลแอมโมไนต์ ก่อตัวขึ้นภายใต้ แรงกดดันของเปลือกโลก พร้อมการทับถมของแร่ธาตุอื่นๆ
การค้นพบ แอมโมไลต์ อัญมณีแห่งรัฐอัลเบอร์ตา
จนในที่สุด เมื่อปี ค.ศ. 1962 แร่นี้ก็ถูกค้นพบ ว่าสามารถจัดอยู่ในกลุ่ม อัญมณีได้เหมือนกับแร่อื่น ซึ่งแหล่งสำคัญที่พบ คือบริเวณ Bearpaw ทอดยาวไปถึง อัลเบอร์ตา-ซัสแคตเชวัน ในประเทศแคนาดา ทางใต้สู่มอนแทนา
และต่อมาในปี 1981 แอมโมไลต์ ก็ได้รับการรับรองจาก สมาพันธ์อัญมณีโลก (CIBJO) ให้เป็นอัญมณีอย่างเป็นทางการ และเป็นแร่ชนิดสุดท้าย ที่ถูกยอมรับในรอบ 300 ปี พร้อมกับถูกแต่งตั้ง ให้เป็นอัญมณีรัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา เมื่อปี 2022 [1]
ที่มาของชื่อ แอมโมไลต์ และซัพพายเออร์สำคัญ
ก่อนที่จะได้รับการยกย่อง ว่าเป็นหนึ่งในอัญมณี ย้อนกลับไปในปี 1967 Marcel Charbonneau เป็นคนแรกที่เจียระไนแร่นี้ขึ้นมา แล้วตั้งชื่อให้มันว่า Ammolite จากนั้นเขาก็ได้ร่วมมือกับ Mike Berisoff เพื่อก่อตั้งบริษัท Ammolite Minerals Ltd. ที่เกี่ยวกับ แอมโมไลต์ เป็นแห่งแรก [2]
ต่อมาในปี 1977 แร่จากฟอสซิลนี้ ถูกตั้งชื่อทางการค้าว่า “โคไรต์” ซึ่งเป็นที่มาจาก บริษัทเหมืองแร่ Korite International Ltd. ซัพพลายเออร์รายใหญ่ ที่ผลิตแอมโมไลต์ถึง 90% ของโลก และยังเป็นผู้คิดค้น ระบบการให้เกรดแร่แบบ logical ที่องค์กรนานาชาติยอมรับอีกด้วย
ส่วนประกอบของ แอมโมไลต์ และสีที่ปรากฏ
เปลือกหอยแอมโมไนต์ ประกอบไปด้วย aragonite เป็นหลัก ที่เป็นแร่ธาตุหลักในไข่มุก โดยเป็นการรวมกันของธาตุอื่นๆ ได้แก่ อะลูมิเนียม, แบเรียม, โครเมียม, ทองแดง, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส ซิลิคอน สตรอนเซียม ไทเทเนียม และวานาเดียม
ซึ่งแร่ธาตุที่กล่าวมา เป็นปัจจัยที่ทำให้ แอมโมไลต์ มีหลายสีสัน หากเป็นแร่คุณภาพสูง จะมีสีเข้มข้น สว่าง แต่ถ้าคุณภาพต่ำ สีจะไม่ค่อยสดใส และโดยทั่วไป สีที่พบบ่อยคือ แดงและเขียว ส่วนสีหายาก คือแดงเข้ม ม่วง และสีทอง
รายละเอียดเฉพาะแร่ แอมโมไลต์ ทางกายภาพ
- ประเภทแร่ : Fossilized, Mineralized Ammonite Shell
- สูตรทางเคมี : CaCO3
- สี : ปรากฏได้หลากหลาย ทั้งสีรุ้งสะท้อนแสง น้ำเงิน เขียว น้ำตาล เป็นต้น
- ความมันวาว : เหมือนกับแก้ว-เรซิน
- ความโปร่งใส : ทึบแสง
- ระดับความแข็งของ Mohs : 3.5-4
- ความหนาแน่น : 2.70-2.80
- ระบบคริสตัล : NA
ที่มา: General Information [3]
ลักษณะการใช้งาน แอมโมไลต์ พร้อมเปิดมูลค่า
ด้วยคุณสมบัติที่เปราะบาง ความทนทานต่ำ จึงทำให้การใช้งาน แอมโมไลต์ จะไม่นิยมทำเป็นแหวน หรือเครื่องประดับ ที่เสี่ยงต่อการสัมผัส แต่จะทำเป็นจี้ หรือต่างหู เพื่อใช้ร่วมกับอัญมณีอื่นๆ แทน
นอกจากนี้ ด้วยสีสันที่ดูหรูหรา น่าดึงดูด ทำให้มันยังถูกนิยม นำไปทำเป็นของตกแต่ง เช่น แจกัน และประติมากรรมประดับบ้าน ส่วนมูลค่า ขึ้นอยู่กับคุณภาพ สี และแหล่งที่มา ยกตัวอย่างเช่น สินค้าต่อไปนี้
- AA Grade Ammolite Art Piece สีแดงแอปเปิล ไปจนถึงสีเหลืองสดใส สีเขียว และ ultramarine ขนาดโดยประมาณ 19 x 15 ซม. ราคา 8,000 ดอลลาร์ หรือ 296,120 บาท
- Alberta Treasure ภาพจิตรกรรม เลียนแบบน้ำทะเล ในเทือกเขาร็อกกี้ อัลเบอร์ตา และตกแต่งด้วยแอมโมไลต์ ขนาด 4 ฟุต x 5 ฟุต x 3 นิ้ว ราคา 21,000 ดอลลาร์ หรือ 777,315 บาท
หรือสนใจดูสินค้าอื่น เกี่ยวกับ แอมโมไลต์ ได้ที่เว็บไซต์ Ammolite Canada หรือบริษัทผลิต และจัดจำหน่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Korite ซึ่งขายอัญมณีเกรดพรีเมียม ราคาสูงเกือบ 2 ล้านบาท
สรุป แอมโมไลต์
แอมโมไลต์ เป็นอัญมณีไม่กี่ชนิด ที่มีประวัติยาวนาน และมีเสน่ห์น่าหลงใหล ทั้งสตอรี่ต่างๆ การก่อตัว ที่มา รวมไปถึงสีสัน ทำให้สามารถดึงดูด ได้ทั้งผู้ชอบเครื่องประดับ นักสะสม และการลงทุนที่มีมูลค่า
อ้างอิง
[1] Iniskim International. (2024). History of Ammolite & Ammonite. Retrieved from iniskim
[2] Wikipedia. (November 19, 2023). Ammolite. Retrieved from en.wikipedia
[3] Gemstones. (April, 2022). General Information. Retrieved from gemstones