แบร์บริค ของสะสมที่สามารถสร้างมูลค่า สามารถเก็งกำไรในตลาดรีเซลได้ Collectibles ที่ผลิตโดย “ MediCom Toy Incorporated ” [1] ซึ่งเป็นผู้ผลิตของเล่น บริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ใครจะไปรู้ว่า จากตุ๊กตาหมีพุงป่องธรรมดา ๆ จะกลายเป็นของเล่นราคาไม่ธรรมดาได้ Art Toy นี้จึงเป็นมากกว่าของเล่น และเป็นอีกหนึ่งผลงานศิลปะ ที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม
เบื้องหลังความสำเร็จ แบร์บริค ตุ๊กตาหมี กลายเป็นของเก็งกำไร
ถ้าถามถึงเบื้องหลังความสำเร็จ ของ “ BE@RBRICK ” [2] ขอย้อนกลับไปในยุค 2000 มีชายคนหนึ่งชื่อว่า “ ทัตสึฮิโกะ อาคาชิ ” เขาเป็นแค่พนักงานบริษัท ที่ทำงานในบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ วันหนึ่งเขาได้ไปเดินเล่น แถวย่านช้อปปิ้งแห่งหนึ่งของโตเกียว บังเอิ๊ญบังเอิญพบกับร้านค้า ที่ขายเกี่ยวกับ Toy นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ และการเปิดร้านขายของ
นี่แหละที่ทำให้เป็นอีกจุดเริ่มต้นกับ MediCom Toy Incorporated ด้วยความร่วมมือกัน ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นจริง ๆ ของ แบร์บริค รุ่นแรก ( หมีตัวสีขาว มีสัญลักษณ์ @ ตรงกลาง ) ทั้งทางทัตสึฮิโกะและ Company ต่างตั้งใจผลิตตุ๊กตาให้เป็นเสมือนผ้าใบ ที่คนซื้อไปสามารถเติมสีสัน หรือลวดลายฝีมือตัวเองได้อย่างต้องการ
สำรวจกลยุทธ์การตลาด แบร์บริค
ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาด วันนี้เราจะพามาสำรวจ ด้วยทางผู้ผลิตทำการตลาดด้วย Limited Edition ( รุ่นจำกัด ) นี่แหละคือความสำเร็จที่สำคัญเลย ที่ทำให้สินค้าต่าง ๆ ของ Company ประสบความสำเร็จ การตั้งใจผลิต แบร์บริค สินค้ารุ่นจำกัด หรือรุ่นพิเศษเฉพาะตัว จะทำให้ความต้องการของนักสะสมเพิ่มขึ้น
นั่นแปลว่า ของจะเริ่มหายากขึ้น คนก็เริ่มหาเพื่ออยากเป็นเจ้าของ ไม่ว่า Price จะแพงกระเป๋าฉีกแค่ไหน แต่นี่แหละคือสีสันที่ทุกคนจะได้รับ แบร์บริค เริ่มมีซีรีส์ลับ หรือซีรีส์พิเศษ เป็นรุ่นที่ไม่ได้มีไว้ให้จำหน่าย ทำขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการขาย ยิ่งหายากก็ยิ่งทำให้คนอยากได้ นักสะสมเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถคว้าตุ๊กตาหมีมาครอบครองได้
BE@RBRICK ได้รับการออกแบบ ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากขึ้น บางชิ้นก็หลุดจากกรอบเดิม ๆ ไปเลย จึงทำให้กลายเป็นตัวละครหายากไปทันที งานศิลปะที่ไร้ขอบเขตแบบนี้ ได้จำหน่ายในรูปแบบของ “ กล่องสุ่ม ” ก็ยิ่งหายากขึ้นไปอีก จนได้มีเหตุการณ์การซื้อขายเกิดขึ้น มีการเก็งกำไรเพิ่มมูลค่า คนที่อยากได้จริง ๆ ยอมกระเป๋าฉีกเพื่ออยากเป็นเจ้าของ
ขนาด แบร์บริค ที่คนยอมต่อแถวซื้อกัน
ในส่วนนี้จะเป็นขนาด ที่นักสะสมนิยมจะซื้อมาเก็บไว้ น้องทุกชิ้นจะเปิดตัวในฤดูหนาว กับฤดูร้อน พอผ่านช่วงเวลานี้ไปแล้ว จะไม่มีการผลิตซ้ำขึ้นมาอีก โดยขนาด แบร์บริค ที่นิยมกันมีดังนี้
- 50% - 35 มม. = ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าพวกพวงกุญแจ ที่สามารถพกพาไปด้วยได้ทุกที่
- 70% - 50 มม. = อัพขยายตัวขึ้นมาหน่อย เหมาะจะตั้งโต๊ะทำงาน เก็บไว้ในตู้กระจกเอาไว้โชว์
- 100% - 70 มม. = รูปแบบคลาสสิก ใหญ่ขึ้นมาจากขนาด 70% จะตั้งโชว์บนโต๊ะ หรือเก็บใส่ในตู้โชว์ก็สวยพอ ๆ กัน
- 200% - 145 มม. = ทำมาจากวัสดุโลหะหล่อ วัสดุนี้ถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษ วางจำหน่ายในซีรีส์ “ Chogokin ” เท่านั้น
- 400% - 280 มม. = นักสะสมนิยมควักเงินซื้อขนาดนี้กัน เพราะจะได้นำไปตั้งโชว์ภายในบ้านได้ ยิ่งถ้าคนไหนที่มีตู้กระจกใหญ่ ๆ นำน้องไปตั้งโชว์ น้องจะเปล่งแสงออร่าออกมา
- 1,000% - 700 มม. = ขนาดที่ใหญ่ที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นชิ้นหายากทั้งนั้น ส่วนราคาก็คงจะหลักแสนขึ้นไป
ที่มา : ของสะสมที่ต้องมี Limited Edition ความสำเร็จของ Bearbrick [3]
ตัวอย่างสินค้า แบร์บริค ที่เคยสร้างปรากฏการณ์
นี่จะเป็นตัวอย่างสินค้า ที่จัดให้อยู่ในหมวดหมู่ Price แพงหูฉีก บางชิ้นจะมีการ Collab ( ร่วมมือกัน ) ร่วมกับแบรนด์สินค้าชั้นนำอื่น ๆ ตัวอย่าง แบร์บริค มีดังนี้
- BE@RBRICK x READYMADE x BAPE = Price เปิดตัว 95,000 บาท แต่ ๆ ๆ ราคาขายล่าสุด 734,000 บาท
- BE@RBRICK KAWS CHOMPER = ราคาเปิดตัว 4,300 Baht ราคาขายล่าสุดนี้ 500,000 Baht
- Hajime Sorayama x Daniel Arsham 1,000% = น้องมีค่าตัวประมาณ 14,999 ดอลลาร์ เปิดตัวเมื่อปี 2019
- Yue Minjun ‘Qiu Tu’ Bearbrick 1,000% = เปิดตัวเมื่อปี 2008 ค่าตัวเกือบ 200,000 ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยราว ๆ 7 ล้านบาท นี่เป็น Price แพงที่สุดตั้งแต่เปิดตัวขายมา
- Bearbrick Coco Chanel 1000% = ค่าตัวน้องจะอยู่ที่ 74,999$ แต่ถ้าตีเป็นเงินไทย ปัจจุบันจะมี Price ประมาณ 2,755,388 Baht
- Bearbrick x Readymade x A Bathing Ape 1000% = ค่าตัวจะอยู่ที่ 25,472$ เป็นเงินไทยที่นักสะสม จะต้องยอมควักเงินประมาณ 935,510 บาท
ที่มา : BE@RBRICK ตุ๊กตาหมีของเล่นที่เน้นแต่งบ้าน และเก็งกำไรได้ [4]
เริ่มต้นสะสม แบร์บริค ยังไง ให้เหมาะกับการลงทุน ?
ไหนใครที่กำลังศึกษา จะเริ่มเก็บสะสม เริ่มจะเอาเงินมา Invest กับ แบร์บริค บ้าง ก่อนอื่นคุณจะต้องเริ่มจาก 3 หลักนี้ ที่เราจะแนะนำคุณก่อน รายละเอียดมีดังนี้
- การจะเริ่มเก็บสะสมอะไรสักอย่าง ควรจะเริ่มจากความชอบ หรือความหลงใหลก่อน ด้วยเอกลักษณ์ของ Plastic Teddy Bear เอง ที่ทำให้กลายเป็นสินทรัพย์น่าชื่นชม จนอยากเริ่มสะสม และนำมาปล่อยที่ตลาด ในราคาที่ตัวเองพึงพอใจ
- ควรเลือก Collection ลิมิเต็ด เพื่อที่ในอนาคต จะได้นำมาเก็งกำไรได้ อยากแนะนำให้เลือกดีไซน์ ที่ศิลปิน Collab กับศิลปินท่านอื่น + แบรนด์สินค้าดังอื่น ๆ + ผลิตจากวัสดุพิเศษ
- ขนาดไซส์ที่ซื้อมา ควรสอดคล้องกับราคา เพราะปกติจะมีขนาดตั้งแต่ 50% - 1,000% ส่วนใหญ่คนที่เริ่มซื้อ มักจะเก็บขนาดที่เป็นมิตรกับโต๊ะ อย่าง 400% และเป็นมิตรกับตู้โชว์ ที่เมื่อมองเมื่อไหร่ก็ใจฟู อย่าง 1,000%
“ การลงทุน ” ( Investment ) ไม่ว่าจะเริ่มลงทุนกับ แบร์บริค หรืออะไรก็ตาม ควรเริ่มจากความชอบก่อนเป็นอันดับแรก อาจจะไม่เหมาะกับนักลงทุน ที่ต้องการเพียงกำไรระยะสั้น หรือคนที่รับความเสี่ยง ต่อราคาที่มันผันผวนได้น้อย ยิ่งน้องชิ้นไหนที่เป็น Collection แรก ๆ แล้วเราสะสมมานาน การนำมา Invest ในตลาดรีเซล ถือว่าเป็นการก้าวสู่การลงทุนที่ดี
สรุป แบร์บริค ตุ๊กตาหมีพลาสติกตัวตึง
การได้สะสม หรือการได้ล่า แบร์บริค หายาก มันคือความสุขอย่างหนึ่ง ที่เราหาจากคนไม่ได้ แต่ไปหาจาก Art Toy มีมูลค่าแทน มักจะมีคำพูดจากหมู่นักสะสมที่ว่า “ คนเล่นหมี ระวังหมีเรียกเพื่อน ” ระวังจากที่ซื้อมาขนาดไซส์เล็ก อยู่ ๆ ในมือจะกลายเป็นไซส์ใหญ่ที่สุด และระวังอีกว่า ชิ้นที่คุณมีอยู่ในบ้าน อาจจะเก็งกำไรได้สูง
อ้างอิง
[1] MEDICOM TOY. (2024). MediCom Toy Incorporated. Retrieved from medicomtoy
[2] THE STANDARD. (July 02, 2022). สำรวจราคา BE@RBRICK ตุ๊กตาหมีพลาสติกที่ยังไม่สิ้นมนตร์ขลัง. Retrieved from thestandard
[3] Marketeer. (September 12, 2023). ของสะสมที่ต้องมี Limited Edition ความสำเร็จของ Bearbrick. Retrieved from marketeeronline
[4] THE GUN C. (November 22, 2022). BE@RBRICK ตุ๊กตาหมีของเล่นที่เน้นแต่งบ้าน และเก็งกำไรได้. Retrieved from ananda