เม็ดแมงลัก ธัญพืชยอดนิยม สำหรับทำอาหารหวาน และเครื่องดื่มผลไม้ หาซื้อง่าย และราคาประหยัด รู้กันหรือไม่ว่าเมล็ดสีดำขนาดจิ๋วนี้ มีดีมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะคนคุมน้ำหนัก คนท้องผูกถ่ายยาก รวมถึงช่วยต้านโรคต่าง ๆ ได้ดี แต่ก็มีข้อควรระวังในการกิน มาดูกันว่าพืชชนิดนี้ เหมาะกับเราหรือไม่
เม็ดแมงลัก อาหารของคนรักสุขภาพ
เม็ดแมงลัก (Basil Seed) เมล็ดพืชล้มลุก ตระกูลกะเพรา-โหระพา Ocimum โดยเป็นเมล็ดสีดำขนาดเล็ก สามารถเจริญเติบโตได้ ในสภาพอากาศหลากหลาย รสชาติคล้ายถั่วอ่อน เมื่อแช่น้ำในระยะเวลา 15 นาที เนื้อสัมผัสจะคล้ายเจล นิยมใช้ในเครื่องดื่มผลไม้ และของหวาน [1]
การใช้งานตามประวัติศาสตร์ เคยถูกนำมาใช้เป็นยาแผนโบราณ และตำรายาจีน มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ในประเทศจีน ประเทศอินเดีย และในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นยารักษาอาการเบื้องต้นต่าง ๆ อย่างเช่น อาการไข้หวัด อาการไอเจ็บคอ และอาการปวดหัว เป็นต้น
การเพาะปลูกต้นแมงลัก
พื้นที่สำหรับการเพาะปลูก โดยทั่วไปจะปลูกในจีน อินเดีย และเม็กซิโก ฤดูกาลปลูกตั้งแต่เดือนมีนาคม - เดือนมิถุนายน ปลูกแบบเป็นไร่เรียงแถวกัน แต่ละแถวมีระยะห่าง ประมาณ 30 เซนติเมตร และจะปลูกลงดินลึก ประมาณ 0.6 เซนติเมตร ความต้องการน้ำ วัดจากปริมาณความสูง 1 นิ้ว / สัปดาห์
ควรใส่ปุ๋ยทุก ๆ 2 สัปดาห์ โดยเมล็ดจะถูกเก็บเกี่ยว เมื่อมีการสุกแบบเต็มที่ ซึ่งต้องเก็บเกี่ยวด้วยมือ จะทำให้เมล็ดเสียหายน้อยที่สุด และนำไปล้างทำความสะอาด ตากลมให้แห้ง สามารถเก็บได้นานถึง 1 ปี ทั้งนี้ยังเป็นพืชที่ดึงดูดผึ้ง ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะระยะออกดอกในช่วงฤดูร้อน
เม็ด แมงลัก สารอาหารจำเป็น
ภายในเม็ดแมงลัก 100 กรัม สามารถให้พลังงานได้ 420 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 54 กรัม โปรตีน 11.4 – 22.5 กรัม ใยอาหาร 54 กรัม และไขมัน 16 กรัม โดยมีกรดอะมิโนจำเป็น รวมถึงแร่ธาตุหลายชนิด อาทิเช่น แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม ช่วยบำรุงสุขภาพหลายประการ
เม็ดแมงลัก สมุนไพรไทยประโยชน์เพียบ
สมุนไพรกลิ่นหอมฉุน สามารถรับประทานได้ทั้งเมล็ดและใบ มีสรรพคุณไม่ธรรมดา เหมาะกับคนป่วยเป็นหวัด คนกำลังควบคุมน้ำหนัก และคนขับถ่ายยาก อาหารประเภท อาหารธัญพืช นิยมทำเป็นของคาว ของหวาน รวมถึงผสมในเครื่องดื่ม แนะนำนำเมล็ดแช่น้ำให้พองตัว ก่อนรับประทานทุกครั้ง
สรรพคุณและข้อเสียการกิน
เม็ดแมงลักขนาดจิ๋วแต่แจ๋ว กับคุณประโยชน์ดีกับสุขภาพ ดังต่อไปนี้
- เสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ : จากแคลเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างกระดูก และการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี รวมถึงการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
- ระบบการขับถ่ายดี : มีใยอาหารค่อนข้างสูง คุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรีย มีผลต่อการบำรุงสุขภาพลำไส้ กระตุ้นการขับถ่ายให้ง่ายขึ้น และป้องกันอาการท้องผูก
- ควบคุมน้ำหนัก : ปริมาณเม็ดแมงลัก 1 ช้อนโต๊ะ ให้ใยอาหารมาก 7 กรัม คิดเป็น 25% ของปริมาณใยอาหาร ที่ควรบริโภคต่อวัน จะช่วยให้รู้สึกอิ่ม และอยู่ท้องนานมากขึ้น
- ลดไขมันในเลือด : ใยอาหารเพคติน ช่วยขัดขวางการดูดซึม และปรับระดับคอเลสเตอรอลลดลง
นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงของ โรคมะเร็ง (จากสารฟลาโวนอยด์ และสารโพลีฟีนอล) โรคเบาหวาน (ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม) และป้องกันโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด (จากสารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันโอเมกา 3 ในปริมาณมาก) [2]
ข้อเสียการกิน : การกินในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง, การกินเม็ดที่ยังพองไม่เต็มที่ อาจทำให้เกิดการดูดน้ำ จากกระเพาะอาหารแทน ส่งผลต่อการจับตัวเป็นก้อน และอุดตันในลำไส้ และไม่ควรกินพร้อมกับยาชนิดต่าง ๆ เพราะจะทำให้ดูดซึมยาได้น้อยลง แนะนำควรกินยาก่อน 15 – 30 นาที [3]
รวมเมนูของหวานจาก เม็ดแมงลัก
เมนูจากเม็ดแมงลัก ส่วนมากนิยมทำเป็นอาหารหวาน และเป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้สดเม็ดแมงลัก นมหมีเฉาก๊วยเม็ดแมงลัก น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง ทองม้วนสด เค้กชาเขียวเม็ดแมงลัก ไอศกรีมเม็ดแมงลัก กรีกโยเกิร์ต ถั่วเหลืองทรงเครื่อง วุ้นน้ำหวานเม็ดแมงลัก วุ้นกะทิเม็ดแมงลัก เป็นต้น
สรุป เม็ดแมงลัก “Basil Seed”
เม็ดแมงลัก เมล็ดพืชตระกูลกะเพรา และโหระพา เมล็ดขนาดเล็กสีดำ ใช้สำหรับทำอาหารหวาน และผสมในเครื่องดื่มน้ำผลไม้ สรรพคุณช่วยควบคุมน้ำหนัก ระบบขับถ่ายทำงานมีประสิทธิภาพ และช่วยต้านโรคภัยต่าง ๆ ข้อแนะนำต้องแช่เมล็ด ให้พองก่อนทาน เพื่อสุขภาพที่ดี และไม่เกิดผลเสียตามมา
อ้างอิง
[1] wikipedia. (September 4, 2024). Basil Seed. Retrieved from wikipedia
[2] pobpad. (2022-2024). เม็ดแมงลักเมล็ดพืชจิ๋วกับ 7 คุณประโยชน์แจ๋ว. Retrieved from pobpad
[3] medthai. (July 3, 2020). แมงลัก สรรพคุณและประโยชน์. Retrieved from medthai