ส้มซ่า ผลไม้หายาก ที่ไม่ค่อยมีใครได้พบเห็น หรือลิ้มลองรสชาติ โดยเป็นพืชพื้นบ้าน ที่มีผลคล้ายกับมะกรูด หลายคนอาจสับสนกันไปบ้าง แต่เมื่อผลแก่ จะมีสีส้มเหลืองสวยงาม นิยมทำเป็นยาสมุนไพร และทำเมนูอาหารสูตรชาววัง สามารถทำได้ทั้งเปลือก ผล ใบ และน้ำ สารพัดประโยชน์ในลูกเดียว
รู้จักพืชหายาก ส้มซ่า คือส้มหรือไม่?
ส้มซ่า (Bitter Orange) หรือเรียกอีกชื่อว่า ส้มขม, มะนาวควาย พืชยืนต้นขนาดกลาง ในวงศ์ของ Rutaceae พืชตระกูลส้ม Citrus x Aurantium โดยมีถิ่นกำเนิดใน ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแพร่กระจายสายพันธุ์ไปทั่วโลก อาจมีสายพันธุ์ผสม ระหว่างส้มโอ กับส้มแมนดารินป่า [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ส้มซ่า
ต้นไม้ชนิดยืนต้น โดยลำต้นมีความสูง 3 – 8 เมตร เปลือกต้นเป็นสีดำ มีทรงพุ่มกลม และ มีกิ่งก้านแหลมสั้น ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกัน มีต่อมน้ำมันกระจายทั่วใบ ทำให้ส่งกลิ่นหอมเฉพาะ
ดอกมีกลีบสีขาว 4 – 5 กลีบ ช่วยส่งกลิ่นหอมแรง และมีผลส้มทรงกลม ผิวขรุขระเล็กน้อยคล้ายมะกรูด เปลือกหนาสีเขียว และเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว โดยข้างในมีเมล็ด ประมาณ 25 เมล็ด / ผล
วิธีการปลูกและตำแหน่งเหมาะสม
การเพาะปลูกต้นส้มซ่า สามารถปลูกได้ง่าย และเจริญงอกงามดี 2 วิธี ดังต่อไปนี้
- เพาะจากเมล็ด : เหมาะกับพื้นที่เป็นสวนหรือไร่ โดยการนำเมล็ดจากผล (ต้องเป็นเมล็ดสมบูรณ์) นำไปตากแห้ง ประมาณ 1 – 2 วัน จากนั้นนำลงถุงเพาะกล้า แช่น้ำเล็กน้อย และใช้ดินร่วนผสมกับขุยมะพร้าว เพื่อให้ต้นกล้างอกได้ง่ายมากขึ้น
- เพาะจากกิ่งตอน : เหมาะกับพื้นที่แบบจำกัด โดยต้องขุดหลุมให้ลึก สามารถนำต้นกล้วยสับละเอียด มารองไว้ก้นหลุมได้ หรือใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำได้เหมือนกัน จากนั้นนำต้นกล้าลงปลูก ซึ่งในช่วงแรกต้องพรวนดิน รอบโคนต้นสม่ำเสมอ และรดน้ำให้พอดีวันละ 1 ครั้ง เมื่อเข้าสู่ช่วงออกผล ให้เพิ่มปริมาณน้ำ มากกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย
ตำแหน่งการปลูกเหมาะสม ควรปลูกในบริเวณบ้านที่มีพื้นที่กว้าง จะสามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ สามารถตัดแต่งกิ่งได้ เมื่อต้นมีความสูง ประมาณ 2 – 4 เมตร และควรให้อยู่ในบริเวณ เปิดรับแสงแดดได้เกือบตลอดทั้งวัน หรือปลูกทางทิศเหนือของบ้าน เพื่อเป็นไม้ประดับ เหมือนกับ โรสแมรี และเสริมสิริมงคล [2]
ส้มซ่า ทางเลือกการดูแลสุขภาพ
ผลไม้หายากชนิดหนึ่ง เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ แต่ไม่ค่อยขายในตลาดทั่วไป อาจมีเฉพาะแหล่งการทำอาหารสูตรโบราณ หรือแหล่งผลิตยาสมุนไพรเพียงเท่านั้น โดยราคาขายของผลส้มซ่า เริ่มต้น 15 บาท / ผล ปัจจุบันถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย และ เพาะปลูกเพื่อการค้าขายกันมากขึ้น
แหล่งรวมสารสกัดสำคัญ
พืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณมากกว่าที่คิด ทั้งด้านอาหารและยา โดยมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ประกอบไปด้วยสารสกัดสำคัญ อาทิเช่น สารต้านอนุมูลอิสระ Phenols, Flavonones, Limonene, Beta-Myrcene, Synephrine, Tyramine, Octopamine, Hordenine, N-Methyltyramine, วิตามิน และ แร่ธาตุหลายชนิด
นิยมเป็นสารสกัด ที่อยู่ในรูปแบบของ น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้ม ยาสมุนไพร ปรุงแต่งกลิ่นอาหาร แทนมะนาวหรือมะกรูด และเพิ่มรสชาติอาหาร ตามตำรับชาววังโบราณ อย่างเช่นเมนู หมี่กรอบชาววัง ไส้กรอกปลาแนม หมูแหนม ส้มฉุนลอยแก้ว หรืออาหารท้องถิ่นอย่าง สลัดส้มซ่า น้ำส้มซ่าคั้นสด เป็นต้น
ส้ม ซ่า มีประโยชน์อะไรบ้าง?
รับประทานสารสกัดจากส้มซ่า ร่างกายของเราจะได้รับประโยชน์ ด้านสุขภาพที่ดี ดังนี้
- ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
- ลดแคลอรีที่เกินความจำเป็น
- เพิ่มอัตราการเผาผลาญ และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
- ควบคุมอาการอยากอาหาร โดยไม่ส่งผลกระทบข้างเคียง กับการทำงานของหัวใจ และการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
- น้ำมันหอมระเหย ช่วยป้องกันการเกิดแผล ในกระเพาะอาหาร และลดขนาดของแผล
- เปลือกและผล ทำเป็นยาหอมแก้ลม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย และท้องอืด
- น้ำและใบ น้ำส้มช่วยขับเสมหะ แก้ไอ และส่วนของใบ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง
ที่มา: ประโยชน์สารสกัดจากส้มซ่า [3]
สรุป ส้มซ่า “Bitter Orange”
ส้มซ่า พืชตระกูลส้มชนิดยืนต้น แหล่งกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจคล้ายกับผลมะกรูด แต่เปลือกมีสีส้มเหลือง กลิ่นหอมฉุน ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว หนึ่งในพืชที่ใช้ทำยาสมุนไพร และประกอบอาหาร มาตั้งแต่สมัยโบราณ รับประทานแล้วส่งผลดีต่อสุขภาพ และ ระบบการเผาผลาญในร่างกาย
อ้างอิง
[1] wikipedia. (September 24, 2024). Bitter Orange. Retrieved from wikipedia
[2] มนต์พฤกษา. (2021-2024). ส้มซ่าผลไม้โบราณ. Retrieved from monprueksa
[3] linetoday. (August 19, 2023). ประโยชน์สารสกัดจากส้มซ่า. Retrieved from today.line.me