สาระถั่ว พิสตาชิโอ อาหารทานเล่นเพื่อสุขภาพจากอิหร่าน

พิสตาชิโอ ถั่วที่ไม่เหมือนกับถั่วทั่วไป เพราะทั้งอร่อยและสารอาหารเพียบ หนึ่งในของว่างกินเล่น เคี้ยวเพลินจนหลายคนต้องมีติดบ้าน โดยมีรสชาติหวานน้อย ๆ แต่เป็นเอกลักษณ์ สีสันสวยงามตามธรรมชาติ รวมสรรพคุณดีกับร่างกายมากมาย สายสุขภาพถูกใจสิ่งนี้แน่นอน

ทำความรู้จักเกี่ยวกับพืช พิสตาชิโอ

พิสตาชิโอ (Pistachio) เมล็ดถั่วจากไม้ยืนต้น จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับ มะม่วงหิมพานต์ แหล่งกำเนิดในประเทศอิหร่าน เป็นต้นไม้ผลิตเมล็ดสำหรับบริโภค โดยมีการผลิตพิสตาชิโอทั่วโลก ประมาณ 1 ล้านต้น จากฐานการผลิตใหญ่ประเทศอิหร่าน ตุรกี และสหรัฐอเมริกา คิดเป็นอัตรา 88% ของการผลิตทั้งหมด [1]

อธิบายภาพรวม พิสตาชิโอ

ต้นไม้ผลัดใบขนาดเล็ก - ขนาดกลาง โดยมีความสูงมากถึง 10 เมตร ใบเรียงกันเหมือนขนนก ความยาวใบ 10 – 20 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อกระจุก และมีผลลักษณะดรูป (Drupe) คล้ายกับ พีแคน แต่มีขนาดอ้วนกลมกว่า เป็นเมล็ดแข็งสีน้ำตาลแกมม่วง 1 เมล็ด และมีเปลือกสีเหลืองครีม

แหล่งเพาะปลูกและการกระจายพันธุ์ เป็นพืชทะเลทราย ทนทานต่อดินเค็มอย่างดี สามารถเจริญเติบโตได้ในอุณหภูมิระหว่าง – 10 องศาเซลเซียส และ 48 องศาเซลเซียส โดยมีอายุมากถึง 300 ปี นิยมปลูกในสวนผลไม้ สามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเวลา 7 – 10 ปี และแต่ละต้นจะมีเมล็ดเฉลี่ย 50,000 เมล็ดทุก 2 ปี

ข้อควรระวังและความเป็นพิษ

ข้อควรระวังสำหรับการทาน สามารถทานแบบดิบได้ แต่นิยมนำไปคั่วหรืออบมากกว่า เพราะจะให้รสชาติหวานเล็กน้อย แต่ควรระวังสำหรับคนแพ้ถั่ว เพราะเมล็ดมีโปรตีนที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยจะเกิดกับคนแพ้ถั่วประมาณ 7% (ผลสำรวจจากสหรัฐอเมริกา) [2] นอกจากนี้อาจมีสาร Aflatoxins สารเคมีก่อมะเร็ง เกิดจากเชื้อราในดิน และการแปรรูป หรือการจัดเก็บที่ไม่ค่อยดี

พิสตาชิโอ อาหารบำรุงสมองสุขภาพดี

ของว่างทานเล่นยอดนิยมของ พืชตระกูลถั่ว นอกจากรสชาติความอร่อยแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลาย สำหรับพิสตาชิโออบแห้ง 100 กรัม มีพลังงานทั้งหมด 571 กิโลแคลอรี ทั้งคาร์โบไฮเดรต 27.7 กรัม, โปรตีน 21.3 กรัม, ใยอาหาร 10.3 กรัม, ไขมันดีรวม 46 กรัม, วิตามิน และแร่ธาตุอีกหลายชนิด

พิสตาชิโอ กินแล้วได้อะไร?

สารพัดประโยชน์จากการกินพิสตาชิโอ ทั้งบำรุงสุขภาพร่างกาย และลดความเสี่ยงโรค ดังต่อไปนี้

• บำรุงระบบย่อยอาหาร : จากใยอาหารสูง ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ส่งเสริมการเจริญเติบโต ของแบคทีเรียดีในลำไส้ใหญ่ (Bifidobacterium, Lactobacillus) ลดอาการท้องผูก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และลดการอักเสบของทางเดินอาหาร
• ปกป้องการเกิดโรคหัวใจ : สารอาหารโพแทสเซียม สำหรับควบคุมความดันโลหิต เสริมสร้างสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงช่วยรักษาระดับไขมันในเลือด จากใยอาหาร และไขมันอิ่มตัว
• สารต้านอนุมูลอิสระ : มีแคโรทีนอยด์จากพืชปริมาณมาก ทั้งลูทีนและซีแซนทีนมากกว่า เฮเซลนัท 13 เท่า โดยมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม
• บำรุงสมองและระบบประสาท : มีสารฟลาโวนอยด์ค่อนข้างสูง ช่วยป้องกันการเสื่อมถอยของสมอง ลดความเสียหายของเซลล์ในสมอง และเพิ่มประสิทธิภาพความจำดีขึ้น
• ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : ประกอบด้วยโปรตีน ใยอาหาร และคาร์โบไฮเดรตต่ำ ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเหมาะสม เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2

ที่มา: Health Benefits of Pistachios [3]

เคล็ดลับการกิน และตอบข้อสงสัย

พิสตาชิโอเป็นถั่วเม็ดใหญ่ ที่มีรสหวานเล็กน้อย และเนื้อสัมผัสค่อนข้างเนียนนุ่ม เป็นตัวเลือกของการทานเป็นขนมของว่าง หรืออบเพิ่มรสชาติอาหารหวาน ช่วยให้การทานอร่อยมากขึ้น โดยนิยมไปประกอบอาหารหลายประเภท อย่างเช่น สลัดผลไม้ พาสตา ขนมปังธัญพืช ไอศกรีม และคุกกี้ถั่ว

Q&A ถาม-ตอบ

• ถั่วพิสตาชิโออันตรายไหม : หากกินแบบคั่วเกลือ อาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมมากเกินไป จึงควรผสมเกลือในปริมาณน้อย หรือกินแบบไม่ผสมเกลือ
• พิสตาชิโอควรกินวันละกี่เม็ด : ควรบริโภคไม่เกินวันละ 28 กรัม (49 เม็ด)
• ถั่วพิสตาชิโอกี่บาท : ราคาเริ่มต้น 139 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณ
• ถั่วพิสตาชิโอทำไมถึงแพง : สาเหตุหลักเพราะเป็นต้นไม้เติบโตช้า ใช้เวลานานกว่าจะได้ผลผลิต และอาจเติบโตได้แค่บางพื้นที่ ส่งผลทำให้มีต้นทุน การขนส่งเพิ่มมากขึ้น
• พิสตาชิโอเก็บได้นานแค่ไหน : การเก็บอยู่ในภาชนะปิดสนิท หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น โดยควรเก็บในตู้เย็น สามารถอยู่ได้นานมากกว่า 1 ปี

สรุป พิสตาชิโอ “Pistachio”

พิสตาชิโอ เมล็ดจากไม้ยืนต้นชนิดผลัดใบ ถิ่นกำเนิดจากอิหร่าน ให้รสชาติหวานเล็กน้อย เนื้อนุ่ม สามารถกินดิบได้ แต่นิยมนำไปคั่วหรืออบจะอร่อยกว่า ประกอบได้ทั้งอาหารหวานและคาว กินแล้วช่วยต้านการเกิดโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ค่อนข้างมีราคาแพง

อ้างอิง

[1] wikipedia. (November 10, 2024). Pistachio. Retrieved from wikipedia

[2] thermofisher. (2024). Pistachio Nut. Retrieved from thermofisher

[3] health. (February 12, 2024). Health Benefits of Pistachios. Retrieved from health