ถูกชวนลงทุน เป็นสิ่งที่บางคนอาจจะเคยเจอ เคยพบเหตุการณ์ถูกชักชวน ชวนลงทุน จากเบอร์แปลกทางโทรศัพท์ จากเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนใกล้ตัว ในปัจจุบันนั้นมีทั้งผู้ที่ชวนลงทุน โดยไม่ได้ประสงค์ร้าย และ การชวนลงทุน จากผู้ที่ต้องการหลอกเอาเงินเรา ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ สิ่งที่ควรพิจารณา ว่าเราเสี่ยงถูกหลอกให้ลงทุนหรือไม่ พร้อมกับตัวอย่างคำพูดจากมิจฉาชีพ
ถูกชวนลงทุน คืออะไร ?
ถูกชวนลงทุน เกิดขึ้นมาจากบุคคลใดก็ตาม ที่เข้ามาเสนอการลงทุนแก่เรา ทั้งจากการพบปะกันซึ่งหน้า การโทรศัพท์เพื่อชักชวน การใช้สื่อเชิญชวน ผู้ที่ชวนลงทุนอาจเป็นคนที่เรารู้จัก หรืออาจเป็นคนที่เราไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าตาได้
การชวนลงทุน จะเสนอให้ผลตอบแทนที่ดีแก่เรา โดยแลกกับเงินของเราส่วนหนึ่งสำหรับลงทุน ผู้ชักชวนมักจะระบุเวลาที่ได้รับผลตอบให้ได้ทราบ ทั้งระยะสั้น เพียงไม่กี่สัปดาห์ ไม่กี่เดือน ไปจนถึงระยะยาว ที่ใช้เวลาหลายปี ถูกชวนลงทุน เป็นเหตุการณ์ที่มักเกิดกับผู้ที่ทำงานประจำ มีรายได้ ผู้ที่เกษียณอายุ มากกว่าผู้ที่ทำงานอิสระ ไม่ได้เป็นลูกจ้างตายตัว
ในประเทศไทยการ ถูกชวนลงทุน จากมิจฉาชีพ ติดอันดับ 1 สิ่งที่คนไทยสูญเสียเงินมากที่สุด โดยอันดับความเสียหาย มีดังต่อไปนี้
- หลอกลงทุนผ่านคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 13,952 ล้านบาท
- ข่มขู่ให้โอนเงินทางโทรศัพท์ มูลค่าความเสียหาย 5,449 ล้านบาท
- หลอกโอนเงินเพื่อทำงาน มูลค่าความเสียหาย 5,425 ล้านบาท
- หลอกให้ซื้อทรัพย์สินดิจิทัล มูลค่า ความเสียหาย 2,539 ล้านบาท
- หลอกให้ซื้อสินค้า หรือบริการ มูลค่า ความเสียหาย 1,952 ล้านบาท
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (ข้อมูลวันที่ 1 มีนาคม 2565 - 30 กันยายน 2566) [1]
8 ข้อพิจารณา และข้อสังเกตจากการ ถูกชวนลงทุน โดยมิจฉาชีพ
ถูกชวนลงทุน โดยมิจฉาชีพ ผู้ที่ประสงค์ร้าย เพื่อต้องการหลอกเอาเงิน มีรูปแบบการเชิญชวน และมีจุดสังเกตดังต่อไปนี้
1. เสนอผลตอบแทนที่ดูเกินจริง
หากท่านถูกเสนอผลตอบแทนให้สูง เมื่อเทียบกับเงินต้นสำหรับลงทุน หรือระยะเวลาที่ใช้เร็วผิดปกติ ให้ท่านสงสัยก่อนได้เลย ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ การลงทุนในปัจจุบันนี้ ไม่มีการลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนสูงลิ่ว โดยใช้เวลาน้อย และไร้ซึ่งความเสี่ยง
ตัวอย่างการชวนลงทุนที่ดูเกินจริง
- เสนอผลตอบแทนเกิน 300% ของเงินลงทุน โดยระบุว่าผู้ลงทุนจะได้รับอย่างแน่นอน
- เสนอผลตอบแทน 50% ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน
- มีเงินปันผลที่สูงกว่า 10% ในทุกๆเดือน
- เป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดีที่สุดแล้ว
2. ไม่มีความเสี่ยงใดๆในการลงทุน
ถูกชวนลงทุน ที่ระบุว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆเกิดขึ้น ไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งนี้ การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงอยู่ในตัว แตกต่างกันที่เสี่ยงน้อยเสี่ยงมาก หากผู้ชักชวนบอกว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆเลย ให้ท่านคิดไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่ล่ะ
ตัวอย่างการชวนลงทุนที่ดูเกินจริง
- ลงทุนกับเราไม่มีความเสี่ยงใดๆ
- ได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน โดยไร้ซึ่งความเสี่ยง
- ทางบริษัทยินดีรับความเสี่ยงแทนผู้ลงทุนทั้งหมด
3. ใช้คำพูดบีบบังคับให้รีบตัดสินใจลงทุน
มีการใช้คำพูดเพื่อเร่งรีบให้เราตัดสินใจ คำพูดบีบบังคับ หรือหว่านล้อม คล้ายกับเวลาเซลล์ขายของ หากเจอการ ถูกชวนลงทุน ในลักษณะนี้ แทบจะการันตีได้เลยว่าถูกหลอก เพราะในโลกของการลงทุน จะไม่มีเหตุการณ์เร่งรีบแบบนี้ นักลงทุนทั่วโลกรู้ว่าในการลงทุนมีความเสี่ยง ที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบให้มากที่สุด และจะไม่รีบตัดสินใจลงทุนทันที หากเรายังไม่เข้าใจสิ่งที่ลงทุนดีพอ
ตัวอย่างคำพูดบีบบังคับ
- รับเพียง 50 คนแรกเท่านั้น
- ลงทุนได้ถึงแค่ภายในวันนี้เท่านั้น
- ถ้าลงทุนตอนนี้ จะได้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนภายหลัง
4. มีการส่งเสริมการลงทุน และอวยจนเกินเหตุ
จะเป็นการใช้คำพูดแนะนำให้ท่านมาลงทุน โดยอาจจะบอกว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทางลัดให้รวยไวที่สุด และพยายามชวนท่านให้กลายมาเป็นนักลงทุนให้ได้ ทั้งที่ในความเป็นจริง ท่านอาจมีงานประจำอยู่แล้ว หรือไม่ได้สนใจในเรื่องการลงทุน การชักชวนรูปแบบนี้ เป็นการทำให้การลงทุนดูน่าสนใจ และทำให้คนที่หวังจะรวยทางลัด หลงเชื่อไปลงทุนได้
ตัวอย่างการพูดส่งเสริมการลงทุน และการอวย
- ลงทุนกับเราแล้วจะไม่เสียใจภายหลัง
- อาชีพที่รวยที่สุดคือนักลงทุน
- การลงทุนกับเราถือว่าดีที่สุด เท่าที่เคยมีมาแล้ว
- ท่านก็สามารถเป็นนักลงทุนที่ร่ำรวยได้ โดยไม่ต้องทำงานประจำ
5. เสนอเงินให้เพิ่ม หากท่านไปชักชวนคนอื่นได้
หากท่านไปชวนเพื่อน หรือคนอื่นมาลงทุนได้อีก ท่านก็จะได้เงินเพิ่ม อันนี้อาจจะคุ้นๆกันหน่อย เพราะมันคล้ายกับ การแชร์ลูกโซ่ โดยจะมีการเชิญชวนต่อกันไปเป็นทอดๆ ผู้ที่เชิญได้ ก็จะได้รับผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น เจอแบบนี้ถูกหลอกแน่นอน 100% ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนไม่ต้องการเชิญคนมากมายเพื่อมาลงทุน สิ่งที่ดีที่สุดคือ ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนจริงๆ โดยสามารถเข้าใจหุ้นตัวนั้น พร้อมกับรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ตัวอย่างการเสนอเงินให้เพิ่ม
- หากชวนเพื่อนมาลงทุนต่อ จะได้รับเงินเพิ่ม 20% ของเพื่อนที่มาลงทุน
- การลงทุนนี้ยิ่งชวนเพื่อน ก็ยิ่งได้รับผลตอบแทนมาก
- เราต้องการบอกต่อการลงทุนดีๆ ให้กับผู้คนให้มากที่สุด
6. เป็นการลงทุนที่เจาะจงบุคคลเป็นพิเศษ
ถูกชวนลงทุน โดยเจาะจงที่ตัวท่านเป็นพิเศษ โดยอาจจะบอกว่า เป็นสิทธิพิเศษที่มีให้ท่านเท่านั้น การเจาะจงในลักษณะนี้จะช่วยสร้างคุณค่าในตัวของผู้ถูกชวน ให้เห็นว่าตัวเองถูกให้ความสำคัญ ส่วนใหญ่มักจะใช้หลอกกับผู้สูงอายุ
ตัวอย่างการชวนลงทุนที่เจาะจงบุคคล
- ท่านเป็นคนพิเศษ ที่เราอยากจะเสนอการลงทุนนี้ให้เท่านั้น
- มีเพียงไม่กี่คน ที่ถูกเสนอการลงทุนดีๆแบบนี้
- การลงทุนนี้ เป็นการลงทุนที่เหมาะกับตัวท่านมากที่สุด
- บุคคลธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถลงทุนโครงการนี้ได้
7. บริษัทหรือบุคคลที่ชวนท่านลงทุน มีความน่าเชื่อถือขนาดไหน
บุคคลทั่วไป ต่อให้จะเป็นคนสนิท คนที่อยู่ในวงการลงทุน ก็ไม่มีสิ่งใดมาการันตี ว่าจะเป็นการลงทุนที่ดี และไม่ถูกหลอกเอาได้ รวมถึงบริษัทที่เป็นฝ่ายชวนลงทุนเช่นเดียวกัน ฉะนั้นการพิจารณาจากบริษัท บุคคล ที่มีความน่าเชื่อถือไว้ก่อน ท่านสามารถตรวจสอบประวัติของบุคคล บริษัท ได้ที่ SEC Check First [2] ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์
ตัวอย่างบริษัทหรือบุคคล ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
- คนรู้จักที่ไม่ได้มีความรู้ด้านการลงทุนเลย
- คนแปลกหน้า ที่ไม่มีประวัติ หรือตัวตนให้ตรวจสอบ
- บริษัทชื่อแปลก ที่ตรวจสอบไม่ได้
- เพื่อนที่ทักมาเฉพาะเวลายืมเงิน แต่อยู่ๆก็มาชวนลงทุน
8. เสนอการลงทุนที่ไม่ชัดเจน ไม่มีรายละเอียดให้ศึกษา
บางครั้งมิจฉาชีพจะเสนอการลงทุนที่ไม่ชัดเจน อธิบายคลุมเครือ ทำให้เราไม่เข้าใจ หากเราไม่ใช่นักลงทุน อาจทำให้เกิดการโฟกัสแต่ที่ผลตอบแทน ทำให้บางคนอาจพลาดไปลงทุนได้ง่าย ในการลงทุนควรให้ข้อมูล รายละเอียดที่ครบถ้วน รวมถึงผู้ที่ลงทุน ควรเข้าใจในสิ่งที่ตนเองลงทุนให้ดี ก่อนที่จะทำการลงทุนในสิ่งนั้น
ตัวอย่างการเสนอลงทุนที่ไม่ชัดเจน
- จะขอข้ามรายละเอียดที่ซับซ้อนนี้ ไปในส่วนของผลตอบแทน
- รายละเอียดเนื้อหา ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องทราบทั้งหมดก็ได้
- เราไม่มีเอกสารแสดงรายละเอียด เนื่องจากมีความยุ่งยาก ซับซ้อนเกินไป
- เป็นการลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญของเรา โดยเขาจะเป็นคนทำเงินให้แก่เราเอง
วิธีรับมือ ถูกชวนลงทุน จากเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลาย
ในหัวข้อนี้ เราจะพูดถึงการรับมือจากการ ถูกชวนลงทุน เป็นการป้องกันเบื้องต้น ที่จะช่วยไม่ให้เราถูกหลอกโดยผู้ประสงค์ร้าย หรือพวกมิจฉาชีพทั้งหลาย
- ไม่โลภ อย่าเห็นแก่เงินที่มาล่อตาล่อใจ การหาเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ามีวิธีที่รวยได้ง่ายขนาดนั้น ป่านนี้คนทั้งโลกก็คงรวยกันหมดแล้ว แล้วทำไมผู้ชักชวนไม่ไปลงทุนเอง แอบรวยเองล่ะ
- ไม่หูเบา อย่าหลงเชื่อผู้อื่นง่ายๆ ควรมีสติ พิจารณาอย่างรอบคอบ ใช้เหตุและผล ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูดได้ แต่ให้ฟังแต่เรื่องที่มีเหตุและผลเท่านั้น ไม่ควรเก็บคำพูดทุกอย่างที่ไม่มีน้ำหนักมาพิจารณา
- อย่าใจร้อน ในการตัดสินใจทำอะไรก็ตาม ไม่ควรเร่งรีบตัดสินใจ ควรนำสิ่งนั้นมาคิดให้รอบคอบ ถี่ถ้วนก่อน
- ตรวจสอบ ทุกครั้งที่มีบุคคล หรือบริษัทมาเชิญชวนลงทุน ควรขอชื่อ-สกุล บุคคลนั้น และชื่อเต็มของบริษัทเพื่อนำมาตรวจสอบกับ ก.ล.ต. ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
- ศึกษาข้อมูลก่อน หากท่านต้องการลงทุน ควรศึกษาด้วยตนเองให้ดี ให้เข้าใจการลงทุนเสียก่อน การเห็นด้วยตาตนเอง ย่อมดีกว่าการฟังผู้อื่น เพราะเราอาจจะถูกเป่าหูเอาได้
ที่มา : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย [3]
สรุป ถูกชวนลงทุน ที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกให้สูญเงิน
ถูกชวนลงทุน ในยุคนี้เกือบทั้งหมดล้วนคือ การถูกหลอกลงทุน การลงทุนที่ดีจะดึงดูดนักลงทุน ที่มีอยู่มากมายเข้าหาเอง ไม่จำเป็นที่ต้องเชิญชวน หรือมีการโฆษณา การลงทุนทุกอย่างบนโลกย่อมมีความเสี่ยง ความเสี่ยงยิ่งสูงก็ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก (High Risk High Return) ฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ลงทุนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนให้ถี่ถ้วน และใช้สติตลอดเวลา ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรก็ตาม
อ้างอิง
[1] Infoquest. (October 5, 2023). อันดับภัยออนไลน์ที่คนไทยโดนหลอกสูงสุด. Retrieved from infoquest
[2] SEC. (2019-2024). SEC Check First. Retrieved from sec
[3] Anti Fake News Thailand. (October 10, 2023). 5 ไม่ ที่ต้องทำ ก่อนโดนมิจฉาชีพหลอกลงทุน. Retrieved from antifakenews