เฮดดิส (Headis) หรือ Head Ping Pong เป็นกีฬาเกี่ยวกับ “ ปิงปอง ” ที่เปลี่ยนจากไม้เทเบิลเทนนิส มาใช้เป็นหัวโหม่งลูกบอลแทน ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย นักเรียนกีฬาชาวเยอรมัน โดยมีวิธีเล่นยังไงบ้าง เราจะพาไปรู้จัก
ผู้คิดค้นกีฬา เฮดดิส เกิดขึ้นได้ยังไง
เฮดดิส เป็นชื่อที่มาจาก 2 คำ คือ Head + is (การจบลงของการแข่งเทเบิลเทนนิส) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2549 ในประเทศเยอรมนี โดยนักเรียนกีฬาชื่อว่า René Wegner และเพื่อนของเขา ที่นำลูกฟุตบอล ไปเล่นบนโต๊ะปิงปอง และใช้เพียงหัวในการส่งลูกไปมา
หลังจากนั้นในปี 2007 เขาพัฒนาเพิ่มเติม และสร้างแนวคิดจากการเล่นนี้ ให้เป็นแบนเนอร์ของตัวเอง ก่อนที่ในปีต่อมา 2008 กีฬาชนิดนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของกีฬามหาลัย และเป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น ผ่านรายการ TV Total และ Schlag den Raab
ส่งผลให้มีผู้เล่นกว่า 80,000 คนจากทั่วโลก แถมยังมีการแข่งขันต่างๆ จัดขึ้นอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น แข่งขันชิงแชมป์โลกทุกปี เริ่มตั้งแต่ 2011, ชิงแชมป์ยุโรปตั้งแต่ปี 2015, Headis-Masters เป็นต้น [1]
อยากเล่น เฮดดิส มีกฎอะไรบ้าง
กฎของกีฬานี้ ไม่ต่างจากปิงปองเท่าไหร่ จะใช้หัวส่งลูกบอล ให้กระเด้งไปโต๊ะฝั่งตรงข้าม โดยอนุญาตให้ใช้เทคนิค Volleyheader แบ่งเป็นประเภทเดี่ยวและคู่ โดยใช้โต๊ะขนาดใกล้เคียงกับปิงปอง มีตาข่ายตรงกลาง
หากทีมใดทำคะแนนถึง 11 แต้มก่อนชนะ และส่วนสำคัญ คือการตั้งชื่อเล่นหรือ Stage name ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เช่น Headsinfarkt, Sebastian Headdel, Headi Potter, Stirnhilde เป็นต้น เนื่องจากจะไม่มีการใช้ชื่อจริงในการแข่งขัน
กติกาการเล่น เฮดดิส ฉบับทั่วไป
- ลูกบอลเส้นรอบวงประมาณ 50 ซม. หนักราวๆ 100 กรัม
- ต้องชนะ 2 เซตถึงจะชนะเกม แต่ละเซตเล่น 11 แต้ม
- หากสองทีมแต้ม 10 เท่ากัน จะมีการเล่นอีก 2 แต้มหาผู้ชนะ
- บอลสามารถกระดอนได้ฝั่งละ 1 ครั้ง ก่อนโหม่ง
- สัมผัสบอลได้แค่ศีรษะ ร่างกายส่วนอื่นๆ สัมผัสโต๊ะได้
- หลังจากเล่นไปแล้ว 2 แต้ม จะต้องเปลี่ยนเสิร์ฟ
- ในระหว่างการเสิร์ฟ ห้ามถือบอลเหนือโต๊ะ
- ผู้เสิร์ฟต้องเด้งบอลลงฝั่งตัวเอง แล้วให้เด้งไปฝั่งตรงข้าม
- หากบอลติดตาข่าย เช่นเดียวกับการเสิร์ฟ ทีมนั้นๆ จะต้องเสิร์ฟใหม่
- ใช้เทคนิค Volleyheader ได้ โดยไม่สัมผัสโต๊ะ แต่หลังจากโหม่ง ส่วนใดของร่างกายของสัมผัสโต๊ะ
- ห้ามสัมผัสบอลหลังตาข่าย หากบอลออกข้างโต๊ะ คู่แข่งสามารถเป็นผู้เสิร์ฟได้
ที่มา: The Headis-Rules, How do you play-Headis? [2]
แรงค์กิ้งของ เฮดดิส คิดคะแนนจากอะไร
อันดับโลกของกีฬา เฮดดิส นับรวมจากการแข่งขันระดับ worldwide 15 ทัวร์นาเมนต์ล่าสุดของทุกปี ซึ่งแต่ละการแข่งขัน จะมีระดับดาวแตกต่างกัน และผู้ชนะชิงแชมป์โลก (ทัวร์นาเมนต์ 5 ดาว) จะได้รับแต้มรวม 200 คะแนน โดยมาจากแต้มอันดับหนึ่ง 40 คะแนน x 5 ดาว
และจัดอันดับตั้งแต่ 1-5 ดาว อีกทั้งยังมีดาวครึ่งดวงด้วย ซึ่งหากมีผู้เล่นคะแนนเท่ากัน แสดงว่าลงแข่งน้อยกว่า และจาก 15 รายการล่าสุด ไม่นับรวมกับ Headis-Masters และชิงแชมป์ยุโรป
ตารางการจัดอันดับกีฬา เฮดดิส
- ผู้ชนะเลิศ : รับ 40 คะแนน
- อันดับ 2 : รับ 32 คะแนน
- อันดับ 3 : รับ 24 คะแนน
- อันดับ 4 : รับ 16 คะแนน
- รอบก่อนรองชนะเลิศ : 12 คะแนน
- รอบ 16 ทีมสุดท้าย : 8 แต้ม
- รอบ 32 ทีมสุดท้าย : 4 แต้ม
- รอบ 64 ทีมสุดท้าย : 2 แต้ม
- รอบ 128 ทีมสุดท้าย : 1.5 แต้ม
- รอบแบ่งกลุ่ม : 1 แต้ม
ที่มา: Headis-ranking [3]
รายการแข่งขัน เฮดดิส ที่สำคัญ
Headis World Championship
รายการประจำปี ที่ไม่จำกัดผู้เล่น และมีผลต่อการจัดอันดับ ในการแข่งขันเมื่อปี 2016 มีผู้เล่นเข้าร่วมจากถึง 12 ประเทศ แชมป์ล่าสุด 2018 ได้แก่ Headsinfarkt (ชาย) - Jana Kournikova (หญิง)
European Championship
เริ่มต้นในปี 2015 เป็นรายการเดียว ที่ชายและหญิงแข่งขันด้วยกัน ในปีแรกมีประเทศเข้าร่วม 4 ชาติ ได้แก่ เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม และในปี 2016 เพิ่มสาธารณรัฐโดมินิกันเข้ามา
Headis-Masters
จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2011 ประกอบด้วยผู้เล่นชายที่ดีที่สุด 18 คน และผู้เล่นหญิงที่ดีที่สุด 8 คน โดยคนที่คว้าแชมป์ล่าสุดเมื่อปี 2018 คือ Pressure Pete (ชาย) - Red Hot Chili Headers missing Pepper (หญิง) [4]
สรุป กีฬาเฮดดิส
เฮดดิส ไม่เพียงแค่มีกระแสในฐานะ “กีฬา” ในกลุ่มผู้เล่นเฉพาะ แต่ยังแพร่หลายทั่วพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัย หรือสโมสรฟุตบอล ทั้งในสหรัฐฯ เซี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์อิสระ “Hearts, Heads & Balls” ที่มีผู้เล่นเกือบ 1 แสนคน
อ้างอิง
[1] Kuebler Sport. (March 22, 2019). Wie ist Headis entstanden?. Retrieved from kuebler-sport
[2] Racket Sports World. (2023-2024). The Headis-Rules, How do you play-Headis?. Retrieved from racketsportsworld
[3] Headis. (2024). Headis-ranking. Retrieved from headis
[4] Wikipedia. (April 14, 2022). Most important tournaments. Retrieved from en.wikipedia