บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง หรือแกรนด์ปริซึมสปริง (Grand Prismatic Spring) บ่อน้ำสุดแปลกขนาดใหญ่ ปรากฏหลากสีสัน ที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือ “1,000 Places to See Before You Die” หรือ 1 ใน 1,000 สถานที่ ที่ต้องไปเยือนก่อนตาย โดยข้อมูลที่น่าสนใจ มีดังต่อไปนี้
อะไรคือ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ขนาดใหญ่สุดของอเมริกา
บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง เป็นจุดเที่ยวชมยอดฮิต แห่งหนึ่งของ Yellowstone National Park ซึ่งตั้งอยู่ใน Midway Geyser Basin โดยได้ชื่อว่า เป็นบ่อน้ำพุร้อนใหญ่สุด ในสหรัฐอเมริกา และใหญ่เป็น Top 3 ของโลก ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 200-300 ฟุต และมีความลึกมากกว่า 121 ฟุต
ซึ่งโด่งดังมาจาก การปรากฏสีสันอันสดใส คล้ายกับปริซึม ที่ถูกส่องด้วยแสง ไม่ว่าจะเป็น สีแดง, ส้ม, เหลือง, เขียว และสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรีย และเป็นที่มาของชื่อ โดยจะปล่อยน้ำพุร้อน อุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียส ออกมาราวๆ 2,100 ลิตรต่อนาที
เพราะเหตุใด บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ถึงมีหลายสี
สิ่งที่ทำให้น้ำพุเป็นสีรุ้ง ไม่ได้มาจากแร่ธาตุต่างๆ เหมือนกับการเกิดขึ้นของ ทะเลสาบสปอทเลค หรือทะเลสาบลายจุด แต่สีสันเหล่านั้น เกิดจากจุลินทรีย์ที่สามารถ เจริญเติบโตในความร้อนได้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “thermophiles” ที่เป็นลักษณะพิเศษของไฮโดรเทอร์มอล
ซึ่งรวมตัวกันเป็นล้านล้าน ส่งผลให้ปรากฏเป็นมวลสี โดยมีพลังงาน และส่วนประกอบทางเคมี เพื่อช่วยในการเติบโต ซึ่งเทอร์โมฟิลไม่มีสี และสีเหลือง จะเติบโตได้ดีในน้ำร้อนสุดๆ และเทอร์โมฟิลสีส้ม น้ำตาล และเขียว จะเติบโตได้ดีในน้ำเย็น [1] แบ่งออกเป็น 4 สีหลัก ได้ดังนี้
- สีฟ้า : จุดศูนย์กลางสุดเดือด ที่มีเพียงแบคทีเรียชนิดเดียวอยู่ได้ ซึ่งสีฟ้าที่ปรากฏ เกิดจากการกระจายของความยาวคลื่น เช่นเดียวกับมหาสมุทร
- สีเหลือง : ที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียไซยาโนชื่อว่า Synechococcus ที่พบแพร่หลาย ในสภาพแวดล้อมทางทะเล ซึ่งแสดงสีที่แตกต่าง จากการสังเคราะห์แสง
- สีส้ม : น้ำเย็นลงในชั้นสีส้ม แบคทีเรียอยู่ได้มากขึ้น ทั้ง Chloroflexi และ Synechococcus
- สีแดง : วงแหวนความร้อนน้อยสุดคือ 55 องศา แบคทีเรียมีชีวิตอยู่ได้มากสุด และมีความขุ่น มากกว่าวงแหวนสีส้ม ทำให้บางครั้ง อาจมองเห็นเป็นสีน้ำตาล-แดง
ที่มา: Why Is Yellowstone’s Grand Prismatic Spring Rainbow-Colored? [2]
ประวัติการค้นพบ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ฉบับโดยย่อ
ข้อมูลที่ถูกบันทึกครั้งแรก มาจากนักสำรวจชาวยุโรป เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1839 โดยมีกลุ่มผู้ดักสัตว์ 4 คน จากบริษัท American Fur ได้ข้ามลุ่มน้ำมิดเวย์ไกเซอร์ และจดบันทึกเกี่ยวกับ ทะเลสาบที่กำลังเดือด ซึ่งอาจว่าน่าจะเป็น Grand Prismatic Spring ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 ฟุต [3]
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานทางโบราณคดี และคำบอกเล่าต่างๆ ระบุว่าพื้นที่แห่งนี้ เคยมีคนอาศัยอยู่มานานกว่า 11,000 ปี ซึ่งใช้น้ำพุร้อนในการทำอาหารและอาบ แถมยังมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ และทางการแพทย์อีกด้วย กระทั่งในปี 1871 น้ำพุแกรนด์ปริซึมสปริง ถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ โดยการสำรวจของนักธรณีวิทยาจาก Hayden [4]
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนท่องเที่ยว บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ณ USA
หากต้องการเที่ยวชม บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง ต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานเยลโลว์สโตน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบประจำปี และรายสัปดาห์ โดยมีรายละเอียดราคา ดังเช่นด้านล่าง
- รถยนต์ส่วนตัว : ราคา 35 ดอลลาร์ (1,286 บาท) อายุใช้การ 7 วัน
- เดินเท้าและปั่นจักรยาน : ราคา 20 ดอลลาร์ (735 บาท) อายุใช้การ 7 วัน
- บัตรผ่านรายปี : ราคา 70 ดอลลาร์ (2,572 บาท) อายุใช้การ 365-366 วัน
- America the Beautiful Pass : ราคา 80 ดอลลาร์ (2,939 บาท) อายุใช้งาน 1 ปี ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติทั่วอเมริกา
วิธีในการเยี่ยมชม บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง และข้อดี-ข้อเสีย
สำหรับการเข้าถึง บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง มีด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่ เดินตามจุดชมวิว ที่มีสะพานไม้บริการ และชมวิวผ่านการปีนเขา ซึ่งมีทั้งข้อดี และจุดด้อย ดังนี้
ชมวิวระดับพื้นดิน (เดินตามสะพาน)
- ข้อดี : มองเห็นแบบใกล้ชิด สะดวกสบาย มีสะพานให้เดินรอบวงแหวน
- จุดด้อย : เห็นระยะไกล ที่จอดรถน้อย ไม่สามารถชมทิวทัศน์ได้ แบบสุดลูกหูลูกตา
- ระยะเวลา : 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- ที่จอดรถ : บริเวณน้ำพุร้อนโดยตรง
ชมวิวระดับสูง (เดินป่า/ปีนเขา)
- ข้อดี : ได้สัมผัสทิวทัศน์ ไปกับเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม ก่อนจะถึงจุดชมน้ำพุร้อน 360 องศา คนไม่พลุกพล่าน
- จุดด้อย : ใช้เวลาเดินค่อนข้างนาน ไม่เหมาะกับทริปที่มีเด็ก
- ระยะเวลา : 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง
- ที่จอดรถ : ลานจอดรถ Fairy Falls Trail ทางใต้ของลานจอดหลัก
ที่มา: Two Ways to Visit Grand Prismatic Spring [5]
สามารถเข้าสู่ บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง จากทางไหนได้บ้าง
ทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ไม่อยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ๆ สามารถเข้าถึงได้จาก 5 ทางหลัก ต่อไปนี้
ทางเข้าทิศตะวันตก
- เป็นทางมาจากมอนแทนา ในเมืองเวสต์เยลโลว์สโตน ซึ่งมีโรงแรม ร้านค้า และศูนย์บริการของ สวนสาธารณะ Big Sky ใช้เวลาเดินทางตัวเมืองเวสต์ราว 1 ชั่วโมง แต่หากมาจากโบซแมน ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์
ทางเข้าทิศใต้
- ทางเหนือของเยลโลว์สโตน คืออุทยานแห่งชาติ Grand Teton รัฐไวโอมิง โดยเชื่อมต่อสวนสาธารณะ 2 แห่ง มีบ้านพักตากอากาศ ร้านอาหาร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับการไปถึง
ทางเข้าทิศตะวันออก
- อีกหนึ่งทางเข้าจากรัฐไวโอมิง ผ่านเมืองโคดี ที่มีฉายาว่า "เส้นทางที่ดุร้ายที่สุดสู่เยลโลว์สโตน" หรือ "เมืองหลวงแห่งโรดีโอของโลก" โดยผ่านทั้งฝูงม้ามัสแตงป่า เขื่อนบัฟฟาโลบิล และพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง
ทางเข้าตะวันออกเฉียงเหนือ
- เข้าสู่เยลโลว์สโตนผ่านทางหลวง Beartooth Highway ด้วยระยะทาง 68 ไมล์ ที่เชื่อมต่อกับ Red Lodge ในรัฐมอนแทนา และยอดเขาใน Beartooth Pass ระดับความสูงเกือบ 11,000 ฟุต
ทางเข้าทิศเหนือ
- เดินทางจากเมือง Gardiner รัฐมอนแทนา ทางตอนเหนือของน้ำพุร้อนแมมมอธ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไปยังเมือง Livingston และขับต่ออีก 1 ชั่วโมงไปยังเมือง Bozeman ก่อนเข้าสู่อุทยาน
ที่มา: Entering The Park [6]
สรุป บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง
บ่อน้ำพุร้อนสีรุ้ง เป็นการเกิดขึ้นที่อะเมซิง ที่เหมือนหลุดมาจาก CG ในโรงภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับการศึกษา ที่ใช้จุลินทรีย์จากน้ำพุ ทั้งในทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เช่น การพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 หรือโรคมะเร็ง เรียกว่ามีดีทั้งความสวย ความแปลก และความสำคัญระดับนานาชาติ
อ้างอิง
[1] National Park Service. (April 5, 2024). Color and Heat Lovers. Retrieved from nps
[2] Iflscience. (March 23, 2023). Why Is Yellowstone’s Grand Prismatic Spring Rainbow-Colored?. Retrieved from iflscience
[3] Wikipedia. (November 19, 2023). History. Retrieved from en.wikipedia
[4] World Atlas. (2024). History. Retrieved from worldatlas
[5] Ace Adventurer. (2024). Two Ways to Visit Grand Prismatic Spring. Retrieved from aceadventurer
[6] Travel a la Mer. (2024). Entering The Park. Retrieved from travelalamer